ยุคภูมิธรรม : สเปนภายใต้ราชวงศ์บูร์บง (คริสต์ศตวรรษที่ 18) ของ ประวัติศาสตร์สเปน

พระเจ้าฟิลิปที่ 5 กษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์บูร์บงซึ่งมีต้นกำเนิดในฝรั่งเศสได้ทรงออกพระราชกฤษฎีกานวยบาปลันตา (Nueva Planta decrees; Decretos de Nueva Planta) ในปี ค.ศ. 1715 พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้ล้มล้างสิทธิและเอกสิทธิ์ส่วนใหญ่ที่มีมาแต่เดิมของแต่ละอาณาจักรที่ประกอบกันเป็นสเปน โดยรวบอำนาจบริหารของอาณาจักรเหล่านั้นเข้าสู่ศูนย์กลางภายใต้กฎหมายของกัสติยา[60] นอกจากนี้ สเปนยังกลายเป็นบริวารทางวัฒนธรรมและการเมืองของฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศสมบูรณาญาสิทธิราชย์อีกด้วย อำนาจการปกครองสเปนของราชวงศ์บูร์บงยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การปกครองของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 6 และพระเจ้าชาลส์ที่ 3

คาบสมุทรไอบีเรียในคริสต์ศตวรรษที่ 18

ภายใต้การปกครองของพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และอัครมหาเสนาบดีในพระองค์ คือ เลโอโปลโด เด เกรโกรีโอ มาร์ควิสแห่งเอสกีลาเช และโคเซ โมนีโญ เคานต์แห่งโฟลรีดาบลังกา สเปนก็ได้เข้าสู่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ภูมิธรรม (enlightened despotism) ซึ่งนำพาสเปนไปสู่ความมั่งคั่งครั้งใหม่ในตอนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 และหลังจากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ร่วมกับฝรั่งเศสต่ออังกฤษในสงครามเจ็ดปี (ค.ศ. 1756-1763) สเปนก็ได้ดินแดนที่เคยสูญเสียไปคืนมาเกือบทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดสงครามปฏิวัติอเมริกัน (ค.ศ. 1775-1783)

จิตวิญญาณนักปฏิรูปของพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ดับสูญลงเมื่อพระราชโอรสองค์โตในพระองค์ คือ พระเจ้าชาลส์ที่ 4 เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงปล่อยให้มานูเอล โกด็อย คนสนิทของพระมเหสีมีอำนาจในการบริหารประเทศเหนือพระองค์ และพระองค์ก็ทรงออกนโยบายซึ่งหักล้างกับแนวทางการปฏิรูปในรัชสมัยของพระราชบิดาอีกด้วย หลังจากที่ได้ต่อต้านฝรั่งเศสสมัยการปฏิวัติ (ช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส) ในระยะเวลาสั้น ๆ [61] ไม่นานนักสเปนก็กลับไปเป็นพันธมิตรกับเพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้อีกครั้ง[62] และประกาศสงครามกับอังกฤษ[63] ทำให้สเปนถูกอังกฤษเข้าปิดล้อมทางทะเลเป็นการตอบโต้ การเสียพันธะทางการค้าและการเมืองกับอาณานิคมของตนรวมทั้งการถูกกองทัพนโปเลียนยึดครองในเวลาต่อมานั้น ได้นำไปสู่การเรียกร้องเอกราชของดินแดนเกือบทั้งหมดในโลกใหม่ของจักรวรรดิสเปน การไร้จุดยืนของพระเจ้าชาลส์ที่ 4 ในฐานะพันธมิตรของฝรั่งเศสเป็นตัวชักนำจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (นโปเลียน โบนาปาร์ต) แห่งฝรั่งเศสให้ยกทัพเข้ารุกรานสเปนในปี ค.ศ. 1808

ในช่วงเวลาเกือบตลอดทั้งคริสต์ศตวรรษที่ 18 สเปนประสบความก้าวหน้ามากขึ้นหลังจากเข้าสู่สมัยแห่งความตกต่ำในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่ก็ยังคงล้าหลังในการพัฒนาด้านภูมิธรรมและด้านการค้าซึ่งได้เปลี่ยนแปลงส่วนอื่น ๆ ของยุโรปไปแล้ว เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส กลุ่มประเทศต่ำ และบางส่วนของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ความยุ่งเหยิงวุ่นวายอันเป็นผลจากการแทรกแซงของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 นั้นจะยิ่งทำให้ระยะห่างนี้กว้างยิ่งขึ้น

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติการบินไทย

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประวัติศาสตร์สเปน http://www.ucalgary.ca/applied_history/tutor/eurvo... http://www.bartleby.com/65/ch/Charles5HRE.html http://indoeuro.bizland.com/archive/article8.html http://www.britannica.com/EBchecked/topic/557573/S... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/557573/S... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/558200/S... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/590747/T... http://www.clarin.com/diario/2003/03/29/um/m-53749... http://www.generalisimofranco.com/GC/batallas/006.... http://www.historynet.com/second-punic-war-battle-...